Friday, 3 December 2010

เช็กความถูกต้องกันสักนิดก็ดีนะคะคุณ

เหตุเกิดจากการงานประจำวันนี้เกี่ยวข้องกับ 'กล้วยหอม' และ 'โมสาร์ต'
เลยทำให้ไปเจอกับข่าวนี้
 
*************************************

เหลือเชื่อ มนต์แห่งดนตรี"โมสาร์ท"ขับกล่อมกล้วยหอมให้สุกงาม เพิ่มยอดขายได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 พ.ย.บริษัท"อิสามุ โอกูดะ"ผู้ผลิตกล้วยหอมของญี่ปุ่น ได้ใช้ดนตรีโมสาร์ท จากวงออสเตรตร้า บรรเลงเพลงขับกล่อมให้แก่บรรดาต้นกล้วยไม้ของบริษัท เป็นเวลาต่อเนื่องนับสัปดาห์ ส่งผลให้กล้วยหอมออกมาสุกงาม และสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไม่มีการใช้เทคนิคดนตรีเช่นนี้

 

รายงานระบุว่า กล้วยหอมไม่ใช่สินค้าประเภทเดียวที่ญี่ปุ่นใช้ดนตรีโมสาร์ทขับกล่อมเพื่อให้ คุณภาพออกมาดี โดยก่อนหน้านี้ ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่ได้รับการใช้มนต์ดนตรีเช่นนี้เช่น บะหมี่"อูด้ง" ซ๊อสถั่วเหลือง ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การใช้ดนตรีโมสาร์ทกระตุ้นการเจริญเติบโตของผลไม้ ได้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีกว่าปีที่แล้ว ภายหลังประธานของบริษัทอิสาบุ ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับปรากฎการณ์ดังกล่าว



*ข้อความและภาพแค็ปหน้าจอจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1290838618&grpid=03&catid=06

*****************************************

รู้สึกตงิดตั้งแต่ชื่อบริษัท 'บริษัท"อิสามุ โอกูดะ' เพราะให้ความรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นชื่อคน มากกว่าชื่อบริษัท
ก็เลยลองสอบถามอากู๋ (เกิ้ล) ดู
เลยไปพบความจริงเข้าที่เว็บนี้
http://search.japantimes.co.jp/cgi-bin/fs20101125a3.html

ซึ่งขอแยกออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้

1. ชื่อบริษัทที่ใช้วิธีเปิดเพลงโมสาร์ต คือ Toyoka Chuo Seika ไม่ใช่  'บริษัท อิสามุ โอกูดะ' และ อิสามุ โอกูดะ ที่กล่าวถึง เป็นคนในบริษัท Toyoka Chuo Seika ที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ Mozart Banana

(...the Hyogo Prefecture-based fruit company Toyoka Chuo Seika shipped out its first batch of "Mozart Bananas" to supermarkets in the area.)

2. บริษัท Toyoka Chuo Seikaไม่ใช่  'ผู้ผลิตกล้วยหอม' แต่เป็นบริษัทจัดจำหน่าย หรือประมาณว่านำเข้ากล้วยมาจากฟิลิปปินส์

(Arriving as ordinary unripe bananas from the Philippines...)

3. บรรเลงเพลงขับกล่อมให้แก่บรรดาต้นกล้วยไม้ของบริษัท เป็นเวลาต่อเนื่องนับสัปดาห์ ส่งผลให้กล้วยหอมออกมาสุกงาม ซึ่งจากข้อสองที่บอกไป Toyoka Chuo Seika นำ เข้ากล้วยจากฟิลิปปินส์ ไม่ได้ปลูกเอง เพียงแต่นำกล้วยมาบ่มไว้ในห้องบ่ม แล้วเปิดเพลงโมสาร์ตในระหว่างช่วงเวลาการบ่ม และกล้วยไม้ไม่ได้ให้ผลผลิตออกมาเป็นกล้วยหอม

("Mozart Bananas" meet an odd fate. "String Quartet 17" and "Piano Concerto 5 in D major," among other works, play continuously for one week in their ripening chamber, which has speakers installed specifically for this purpose.)

4. การ ใช้ดนตรีโมสาร์ทกระตุ้นการเจริญเติบโตของผลไม้ ได้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีกว่าปีที่แล้ว ภายหลังประธานของบริษัทอิสาบุ ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับปรากฎการณ์ดังกล่าว ตัวเลข 20 ปี นี่ถูกต้องนะคะ แต่เอ่อ... มันไม่ใช่ท่านประธานของบริษัท  Toyoka Chuo Seika แต่เป็นประธานของ โรงงานทำสาเก Ohara Shuzo

(Another company that uses this form of enhancement is the Ohara Shuzo, a sake brewery in Fukushima Prefecture. The senior managing director, Fumiko Ohara, said that they started over 20 years ago when the president, Kosuke Ohara, came across a book about brewing with music. They experimented with jazz, Mozart, Bach, and Beethoven, among others.)

*ตัวอักษรสีส้ม ข้อมูลที่ถูกต้อง

*ตัวอักษรสีน้ำเงิน ข้อความที่ก๊อบปี้มาจากเว็บไซต์ของมติชน

*ตัวเอนในวงเล็บ ข้อความที่ก๊อบปี้มาจากเว็บไซต์ของเจแปนไทม์ส

เสิร์ชด้วยคีย์เวิร์ด กล้วยหอม และ โมสาร์ท ก็พบว่า ข้อมูลผิดๆ เหล่านี้ ณ บัดนาวมันไปแปะอยู่หลายที่แล้ว

และคนก็คงเข้าใจผิดกันไปโขแล้ว

เข้าใจว่าโลกอินเทอร์เน็ตมันไว

แต่ก่อนจะโพสต์ข่าวลงไป

เช็กความถูกต้องกันสักนิดก็ดีนะคะคุณ




Monday, 29 November 2010

(My Tran) Secret of ARASHI: Jun Matsumoto

ที่มา: オリ☆スタ (Ori-suta)  06/12/2010, Vol 46-1567
English Translation: MOMOEDGWOOD@WORDPRESS

Q: นี่เป็นคำถามบางส่วนจากผู้อ่าน “แสดงความยินดีกับปีที่ 11 ด้วยค่ะ! เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน คุณได้ฉลองกับเมมเบอร์ในวงบ้างไหมคะ” (เพศหญิง, 16 ปี, เฮียวโง)

Matsumoto: ขอบคุณมากครับ เมื่อวันที่ 3 พวกเรามีให้สัมภาษณ์นิตยสาร TV magazine หลังจากที่ไปร่วมงานแถลงข่าวของ NHK ทุกๆ คนก็บอกกับพวกเราว่า ยินดีกับปีที่ 11 ด้วยนะ แต่ตอนอยู่ระหว่างเปลี่ยนวันจากวันที่ 2 เข้าสู่วันที่ 3 ผมกำลังอบเค้กในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ และคิดว่าเราผ่านมันมา 11 ปีแล้วสินะ ผมคิดเรื่องนี้ไประหว่างตอนแต่งหน้าเค้กอยู่ แล้วพอผมทำเค้กเสร็จ ผมก็ถ่ายรูปเค้กจากมือถือ แล้วส่งรูปไปให้กับเมมเบอร์ทุกคน

Q: ดีจังเลยนะคะ คำถามต่อไป “พวกคุณได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าสำหรับการเป็นพิธีกรในงาน NHK’s Kohaku Uta Gassen (คอนขาว-แดง) ครั้งนี้” (เพศหญิง, 17 ปี, จิบะ)

Matsumoto: ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ว่าจะมีใครขึ้นเวทีครั้งนี้บ้าง ผมเลยไม่อยากเรียกมันว่าการเตรียมตัวสักเท่าไหร่ แต่ผมก็เอาเทปของโคฮาคุปีก่อนๆ มานั่งดู พวกเราเองก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมคอนเสิร์ตเคานต์ดาวน์ ก็เลยยังไม่มีเวลาได้ดูโคฮาคุตั้งแต่ต้นจนจบ ได้แต่ดูไปทีะส่วนๆ แต่ผมว่ามันก็คงจะดีถ้าได้ดูแบบต้นจบจบ ผมว่าจะเริ่มจากเทปของเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา

Q: “มองย้อนกลับไป โคฮาคุเมื่อปีที่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?” (เพศหญิง, 15 ปี, นีกาตะ)


Matsumoto: ผมแทบไม่อยากจะเชื่อตอนที่ได้รู้ว่า ถูกรับเชิญให้ไปขึ้นแสดงบนเวทีที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้น ถ้าเป็นคอนเสิร์ตของพวกเราเอง คนดูทั้งหมดก็เป็นแฟนๆ ของพวกเรา ซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนใน NHK Hall จะสนใจพวกเราเหมือนอย่างนั้น บวกกับทุกคนที่อยู่ในที่นั้นก็ถือเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น  แต่สิ่งดีๆ หลังจากนั้นก็คือ ผมรู้สึกว่าการได้ทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่สุดยอดมาก แล้วขณะที่พวกเราเดินทางจากจากฮอลล์ไปที่จัดตอนเสิร์ตเคานต์ดาวน์ พวกเราทุกคน รวมไปถึงสตาฟฟ์ ต่างก็คุยกันเสียงดังว่า มันสุดยอดมาก (หัวเราะ). แล้วเราก็เก็บเอาพลังที่เราได้ไปใช้ในโตโกียวเดิม ซึ่งงานก็ออกมาราบรื่นดี

Q: “เมื่อคุณต้องมาแข่งกับคันจานิ 8 ใน Mannequin 5 คุณคิดว่าคนอื่นๆ แต่งตัวกันอย่างไรบ้าง” (เพศหญิง, 12 ปี, ฮอกไกโด)


Matsumoto: ผมเคยพบกับแต่ละคนแบบเดี่ยวๆ แต่ไม่เคยพบแบบรวมตัวกันทั้งวงอย่างนี้ ดังนั้น การแต่งตัวของพวกเขาเลยเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม

Q: ดูเมมเบอร์ของคันจานิจะทำใจลำบาก ตอนที่ถูกวิจารณ์

Matsumoto: ก็มันเป็นครั้งแรกของพวกเขานี่ครับ (หัวเราะ) พวกเราน่ะชินกับคำวิจารณ์พวกนั้นแล้ว ก็เพราะพวกเราทำมันมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว (หัวเราะ)

Q: “ในบรรดาแขกรับเชิญที่มาแข่งในช่วง Mannequin 5 ใครเป็นคนที่นับถือในเรื่องของแฟชั่นมากที่สุด” (เพศหญิง, 16 ปี, อาคิตะ)


Matsumoto:  กิโรลาโม่ซัง (Girolamo Panzetta) มีเซนส์ที่ดีมากในเรื่องแฟชั่น . เขาสวมเสื้อผ้าแบบที่ดูไม่ค่อยเข้ากับตัวผม แต่ผมก็ชอบมันนะ มันดูเป็นผู้ใหญ่ในสไตล์อิตาเลียนดี

Q: “จากละครที่เมมเบอร์ของวงได้ร่วมแสดง มีบทไหนบ้างไหมที่คุณอยากเล่น” (เพศหญิง, 16 ปี, ฮอกไกโด) ในอดีต เราเองก็เคยถามนิโนะมิยะซังด้วยคำถามเดียวกันนี้ และเขาก็บอกว่า เขาอยากลองเล่นบทโดเมียวจิ (หัวเราะ)

Matsumoto: จริงเหรอ (หัวเราะ)

Q: สนใจบทไคบุสึคุงไหม (หัวเราะ)

Matsumoto: ไม่ล่ะครับ บทไคบุสึคุงดูยากไปหน่อย ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้แน่ (หัวเราะ) อืม... (มองไปที่เมมเบอร์คนอื่นๆ ที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ใกล้) โอ๊ะ แบมบี้!

Sakurai: (เหมือนจะได้ยินคำพูดของจุน) เอ๋!?

Matsumoto: ผมอยากอยู่ในวงล้อมของผู้ชายเหล่านั้นเหมือนใน Kisarazu Cat’s Eyes ได้ตะโกนแล้วก็ทำท่าทางอย่างนี้ (เคลื่อนไหวไปรอบๆ)

Sakurai: มันคงสนุกมาก














**********************************
เซ็งๆ จากการทำงาน พอมีเวลาว่างๆ ก็แอบมาแปลทีละนิดๆ มั่วบ้าง มึนบ้าง อย่าถือสา!

Wednesday, 29 September 2010

Hatsaya's recipes


ลอกเลียนมาจากคุณเชฟ
โตเกียว เค้าใช้หมูสายพันธุ์ X บวกส้ม 5 สายพันธุ์เป็นน้ำราด
เราก็เอาหมูสันไหล่ + น้ำสลัดญี่ปุ่น



โหมดผีบ้านผีเรือน เอ้ย แม่บ้านแม่เรือนเข้าสิง
เลยเอารูปกับข้าวที่เคยทำๆ ไว้มาแปะไว้ซะหน่อย

Thursday, 16 September 2010

My Trans: Come Back To Me

สิ่งที่จะประจักษ์กับสายตาท่านในอีกไม่กี่บรรทัดต่อไปนี้
ถือเป็นการกระทำอัน 'อุกอาจ' ไม่เจียมด้วยปัญญาของตัวข้าพเจ้าเอง

ตั้งใจไว้ว่า ถ้าได้อัลบั้มนี้มาไว้ในครอบครองเมื่อไหร่
จะลองแปลเพลงเพลงนี้ดู
ด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่สั้นกว่าห่างอึ่ง และดิกฯ คันจิอีก 1 เล่ม
จึงออกมาเป็นคำแปลสตึๆ อย่างข้างล่างนี้

อย่าขัดเคืองใดๆ กับคำแปลนี้
ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าทำไป
มาจาก 'ความรัก' ล้วนๆ




*************************************
Come Back to Me
Vocal: Matsumoto Jun
Thai Translation: 4230387


1 2 3 I’ll set you free いつでもここへcome back to me
1 2 3 I’ll set you free itsudemo koko e come back to me
นับ 1 2 3 ผมจะให้คุณเป็นอิสระ ไม่ว่าเมื่อไหร่ กลับมาหาผมได้ที่นี่

I wanna be useful 感じるまま  beautiful
I wanna be useful kanjirumama beautiful
ผมอยากทำตัวเป็นประโยชน์ ความรู้สึกนี้ช่างสวยงาม

オーライさ Oh! Right Now?
oorisa Oh! Right Now?
ตกลง ตอนนี้เลยไหม

タウンごとまとめてシェイク するサウンズ
taungoto matomete sheikusuru saunzu
เสียงเริงร่าสังสรรค์ที่ดังมาจากทุกเมือง

Yes, I like, what you like
ใช่ ผมชอบ แล้วคุณล่ะ ชอบอะไร

エレクトリックビーツのヒート加速し
erekutorikku biitsu no hiito kasoku shi
ความร้อนแรงของจังหวะที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

Oh my soul 大滑走
Oh my soul daikassou
จิตวิญญาณของผมลื่นไหลไปเรื่อยๆ

Like a 得意な事からカタそうI guess so活かそう
Like a tokui na koto kara katasou I guess so Itasou
เหมือนคนที่ทำเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ ก็อยู่อย่างมีชีวิตชีวาไป ผมเดาว่าอย่างนั้น

I said so 聞かそうこのシーケンス song
I said so kikasou Kono siikensu song
ผมพูดอย่างที่ได้ยิน บทเพลงที่ต่อเนื่องเพลงนั้น

悩みも不安も全部 go awayその喜びだけをペースト everyday
Nayami mo fuan mo zenbu go away Sono yorokobi dake wo peisuto everyday
ทั้งความทุกข์ใจ ทั้งความกังวล ทั้งหมด ให้หายไป ให้มีเพียงความสุขสันต์เท่านั้นที่ผ่านเข้ามาในทุกวัน

Just a 微笑みだけを放ち続けてくれ音と光で変える rainy days
Just a hohoemi dake wo hanatsu tsuzukete kure Oto to hikari de kaeru rainy days
เพียงแค่รอยยิ้มที่ให้กันอย่างนี้ต่อไป สรรพเสียงและแสงสว่างก็จะปรากฏขึ้นในวันฝนพรำ

1 2 3 I’ll set you free いつでもここへcome back to me
1 2 3 I’ll set you free  itsudemo koko e come back to me
นับ 1 2 3 ผมจะให้คุณเป็นอิสระ ไม่ว่าเมื่อไหร่ กลับมาหาผมได้ที่นี่

I wanna be useful 感じるまま beautiful
I wanna be useful kanjirumama beautiful
ผมอยากทำตัวเป็นประโยชน์ ความรู้สึกนี้ช่างสวยงาม

用意はいい?その先に僕らを待つ試練と日々に
Youi wa ii?Sono saki ni Bokura wo matsu shiren to hibi ni
เตรียมตัวพร้อมหรือยัง กับบททดสอบที่รอคอยพวกเราอยู่ในทุกๆ วัน

壊れそうになってもきっと光は射すから
Kowaresou ni nattemo Kitto hikari wa sasu kara
ถึงแม้ว่าจะพังทลายไป แสงสว่างจะต้องส่องประกายแน่นอน

Tell me how you feel
บอกผมหน่อยสิว่าคุณรู้สึกอย่างไร

All I wanna do明日へと続く horizon
All I wanna do asu e to tsuzuku horizon
สิ่งที่ผมอยากทำ เส้นขอบฟ้าที่ต่อเนื่องไปสู่พรุ่งนี้

どこまでも行けるからCome on, don't give up!
Doko made mo yukeru kara Come on, don't give up!
ไม่ว่าที่ไหน เราก็ไปได้ มาเถอะ อย่ายอมแพ้

今を逃さなければ きっと make it better
Ima wo nogesanakereba Kitto make it better
ถ้าตอนนี้ไม่ถอยหนี แน่นอน มันต้องดีกว่าเดิม

Tell me how you feel
บอกผมหน่อยสิว่าคุณรู้สึกอย่างไร

All I wanna do明日へと続く horizon
All I wanna do Asu e to tsuzuku horizon
สิ่งที่ผมอยากทำ เส้นขอบฟ้าที่ต่อเนื่องไปสู่พรุ่งนี้

どこまでも行けるからCome on, don't give up!
Doko made mo yukeru kara Come on, don't give up!
ไม่ว่าที่ไหน เราก็ไปได้ มาเถอะ อย่ายอมแพ้

今を逃さなければ もっと make it better
Ima wo nogesanakereba Motto make it better
ถ้าตอนนี้ไม่ถอยหนี  มันจะดีกว่าเดิม

Put your hands up, party people
ชูมือขึ้น party people

I love this city
ผมรักเมืองนี้

宇宙 連鎖 騒ぎ keep on
uchuu Rensa Sawagi keep on
จักรวาล ความเกี่ยวพัน ความอึกทึก ดำเนินต่อไป

愛の指数Kick it
Ai no shisuu Kick it
แบบฉบับของความรัก เตะมันทิ้งไป

Say yeah! (Yeah!)
Say oh yeah! (Oh yeah!)

ゆらしてくれGet downしっかり
yurashitekure Get down shikkari
โยกย้าย  Get down แน่นอน

Come on everybody get fun this party
มาสิ ทุกคน มาสนุกกับปาร์ตี้นี้กัน

Jump! Jump! Jump around!
Jump! Jump! Jump around!
Jump! Jump! Jump around!
Jump! Jump! Jump around!

1 2 3 I'll set you freeいつでもここへ come back
1 2 3 I’ll set you free itsudemo koko e come back
นับ 1 2 3 ผมจะให้คุณเป็นอิสระ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ให้กลับมาที่นี่

Hey yeah! Don't be late
เฮ้ เย้ อย่าช้าล่ะ

What you gonna do, give me more 歓喜で
What you gonna do, give me more kanki de
คุณจะทำอะไรต่อไป ให้ผมปลาบปลื้มใจกว่านี้

感じるまま beautiful
kanjirumama beautiful
ความรู้สึกนี้ช่างสวยงาม

Hey yeah! Don't be late
เฮ้ เย้ อย่าช้าล่ะ

What you gonna do, give me more 歓喜で
What you gonna do, give me more kanki de
คุณจะทำอะไรต่อไป ให้ผมปลาบปลื้มใจกว่านี้

Never knew feel like this before
ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

Never knew feel like this before
ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

I said that 反比例
I said that hanpirei
ผมพูดถึงสัดส่วนที่ผกผัน

What you gonna do, make it more funky way
คุณจะทำอะไรต่อไป ทำให้ง่ายกว่าที่เคย

Never knew feel like this before
ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

Never knew feel like this before
ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

用意はいい?その先に 僕らを待つ試練と日々に
Youi wa ii?Sono saki ni Bokura wo matsu shiren to hibi ni
เตรียมตัวพร้อมหรือยัง กับบททดสอบที่รอคอยพวกเราอยู่ในทุกๆ วัน

壊れそうになっても... 
Kowaresou ni nattemo
ถึงแม้ว่าจะพังทลายไป

Tell me how you feel
บอกผมหน่อยสิว่าคุณรู้สึกยังไง

All I wanna do明日へと続く horizon
All I wanna do asu e to tsuzuku horizon
สิ่งที่ผมอยากทำ เส้นขอบฟ้าที่ต่อเนื่องไปสู่พรุ่งนี้

どこまでも行けるからCome on, don't give up!
Doko made mo yukeru kara Come on, don't give up!
ไม่ว่าที่ไหน เราก็ไปได้ มาเถอะ อย่ายอมแพ้

今を逃さなければ きっと make it better
Ima wo nogesanakereba Kitto make it better
ถ้าตอนนี้ไม่ถอยหนี  แน่นอน มันจะดีกว่าเดิม

Tell me how you feel
บอกผมหน่อยสิว่าคุณรู้สึกยังไง

All I wanna do明日へと続く horizon
All I wanna do asu e to tsuzuku horizon
สิ่งที่ผมอยากทำ เส้นขอบฟ้าที่ต่อเนื่องไปสู่พรุ่งนี้

どこまでも行けるからCome on, don't give up!
Doko made mo yukeru kara Come on, don't give up!
ไม่ว่าที่ไหน เราก็ไปได้ มาเถอะ อย่ายอมแพ้

今を逃さなければ もっと make it better
Ima wo nogesanakereba Motto make it better
ถ้าตอนนี้ไม่ถอยหนี มันจะดีกว่าเดิม

Tell me how you feel
บอกผมหน่อยว่าคุณรู้สึกยังไง

All I wanna do
ทุกสิ่งที่ผมอยากทำ

Hey yeah! Don't be late
เฮ้ เย้ อย่าช้าล่ะ

What you gonna do, give me more 歓喜で
What you gonna do, give me more kanki de
คุณจะทำอะไรต่อไป บอกมาให้ผมปลาบปลื้มใจกว่านี้

Tell me how you feel
บอกผมหน่อยว่าคุณรู้สึกยังไง

All I wanna do
ทุกสิ่งที่ผมอยากทำ


Hey yeah! Don't be late
เฮ้ เย้ อย่าช้าล่ะ


What you gonna do, give me more 歓喜で
What you gonna do, give me more kanki de
คุณจะทำอะไรต่อไป บอกมาให้ผมปลาบปลื้มใจกว่านี้



credit:
hermioneisinlove1@youtube

Monday, 31 May 2010

sexy star




หลานสาวคนเล็กในชุดบิกินี่

Saturday, 22 May 2010

Imagine แปลไทย โดย จิระนันท์ พิตรปรีชา

หากไม่มีสรวงสวรรค์... ฝันง่ายๆ
นรกร้ายเบื้องล่างก็ว่างหาย
เงยขึ้นเห็นฟ้าโปร่งโล่งสบาย
ลองนึกภาพ... คนทั้งหลาย
อยู่ร่วมกัน... เพื่อวันนี้

ลบเส้นแบ่งแห่งรัฐชาติ... ลองวาดฝัน
เพียงเท่านั้นเรื่องร้ายๆ ก็คลายคลี่
ไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องรีบเอาพลีชีพ
ผองชนทั้งหลาย
สุขสบายสันติธรรมค้ำคุณค่า

เธอจะหยันว่าฉันเพ้อไม่ลืมตา
แต่ก็มีมากกว่าฉันทีั่ฝันเป็น
ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเธอจึงเห็น
มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวสร้างโลกใหม่

โลกที่ไร้การครอบครองของผู้ใด
ลองคิดดูได้ไหม... อยากให้ลอง
เมื่อโลกนี้พี่น้องกัน ชนทั้งผอง
ลองวาดฝันวันใหม่ได้ปรองดองร่วมแบ่งปัน
ครรลองโลกของเรา

เธอหยันว่ายังเพ้อละเมอฝัน
แต่มิใช่เพียงแค่ฝันเก่าๆ
จะรอเธอมาร่วมแรงช่วยแบ่งเบา
เพื่อโลกเราสุขสมานศานติครอง

ที่มา: คมชัดลึก วันที่ 21 พฤษภาคม 2553


Imagine by John Lennon

Imagine there's no Heaven
It's easy if you try
No hell below us
Above us only sky
Imagine all the people
Living for today

Imagine there's no countries
It isn't hard to do
Nothing to kill or die for
And no religion too
Imagine all the people
Living life in peace

You may say that I'm a dreamer
But I'm not the only one
I hope someday you'll join us
And the world will be as one

Imagine no possessions
I wonder if you can
No need for greed or hunger
A brotherhood of man
Imagine all the people
Sharing all the world

You may say that I'm a dreamer
But I'm not the only one
I hope someday you'll join us
And the world will live as one



Tuesday, 18 May 2010

เท่เกินไปแล้ว ซากุระอิ




สารภาพว่าถึงขั้นใจเต้นตึกตึก กับ ซากุระอิ โช ในเพลงนี้
เท่โฮก
เท่เกินไปแล้ว
โดยเฉพาะกับเนื้อเพลงท่อนแรก
Nara AIDORU ga dore hodo ka misete yaru yo

หัสยาขอตายอย่างสงบกับเพลงนี้



พีเอะสึ แต่ยังยืนยันว่าน้องจุนยังเป็นที่หนึ่งในใจพี่เสมอจ้ะ

Credit video clip: animexfreakx72 @youtube



Anti-Anti
作詞: 櫻井翔 / ha-j / ISSE
作曲: ha-j

あ、嵐?え、興味ないっすね。
Ah, Arashi? Eh, kyouminai ssu ne.
Oh, Arashi? Nah, I'm not interested.
ジャニーズでHIP HOPっすね。
JANIIZU de HIP HOP ssu ne
Johnny's is just hip hop.
アイドルがどれほどか見せてやるよ!
AIDORU ga dore hodo ka misete yaru yo
I'll show you just what a real idol is!

また階段登る 鳥がはばたくように
Mata kaidan noboru, tori ga habataku you ni
Climbing another staircase, just like a bird who wants to fly
川の流れさからう 人ゴミかきわけ
Kawa no nagare sakarau hitogomi kakiwake
Going against the flow of the river, pushing my way through people's trash
この末期症状 花咲かすきちんと 一輪の
Kono makkishoujou hana sakasu kichinto ichirin no
One flower blooms precisely in these terminal symptoms
真白いキャンバスに描く さらにでかく
Masshiroi canvas ni egaku sara ni dekaku
Painting on pure white canvas, again it's huge

まだ回る地球は
Mada mawaru chikyuu wa
The still turning world
回る変わりゆく街なみ
Mawaru kawari yuku machinami
The turning, changing town's waves
もう止まらず(最速で奪い取る)
Mou tomarazu (saisoku de ubaitoru)
It hasn't stopped yet (I'll be the fastest to steal it)
空高く(アイドルがどれほどか見せてやるよ)
Sora takaku (AIDORU ga dore hodo ka misete yaru yo)
Fly high in the sky (I'll show you just what a real idol is!)

I'll go!!! You just wait. I must run on the way.
It's not over yet. I must run on my way.
その時まで その先まで
Sono toki made sono saki made
Until that time, until I get to that point

あーもういい 外野 黙ってな
Ah mou ii gaiya damatte na
That's enough, you guys in the outfield, stay quiet
そこの飲み屋でIZM語ってな
Soko no nomiya de IZM katatte na
Talk about IZMs in the bar
まるで足んねーな 立てるアンテナ
Maru de tannee na tateru ANTENA
A standing antenna that definitely can't reach
君ら見てるの それはあさってだってんだ
Kimira miteru no sore wa asatte dattenda
You guys will see that the day after tomorrow
How many girls did you get?
俺はこんだけ人数いるぜ
Ore wa kondake ninzuu iru ze
I have all these people
たかがアイドル 風情がタイトル奪い取る
Takaga AIDORU fuzei ga TAITORU ubaitoru
I'll steal that title "just an idol" title that you look down on
最速で奪い取る
Saisoku de ubaitoru
I'll be the fastest to steal it

I'll go!!! You just wait. I must run on the way.
It's not over yet. I must run on my way.
There's no need to know. What may happen to me.
There's no need to stop. I want to look for me.
その時まで その先まで
Sono toki made Sono saki made
Until that time, until I get to that point

credit English translation : Ayame-chan @vox

Thursday, 8 April 2010

เรื่องเล่าจาก Berryz Kobo Live in Bangkok



- รู้จักวงนี้ครั้งแรกจาก Asian Song ปีที่ไอซ์ไปโชว์ ที่ช่อง 7 เอามาฉาย โอ๊ะ เจงกิสข่าน เวอร์ชั่นญี่ปุ่น น่ารักดีแฮะ เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แต่กล้าเต้นท่าเพี้ยนๆ

- มีวงนี้ผ่านมาในโสตประสาทเป็นบางครั้งจากรายการเพลงในช่องเคเบิล

- จนในที่สุดมีข่าวว่าจะมาเล่นคอนที่เมืองไทย ถึงจะรู้จักแบบพอฮึมฮัมตามได้ 2 เพลง กับคุ้นหูกับเมโลดี้อีก 2 เพลง แต่ก็คิดว่าจะไปดู ด้วยตั๋วราคาถูกสุด ก็นะ ณ ที่นี่กรุงโซล เอ้ย ที่นี่กรุงเทพฯ ไม่มีคอนจากวงญี่ปุ่นมานานแล้วนี่นา อย่างน้อยก็ไปซึมซับบรรยากาศละกัน

- วันดีคืนดี PR ของคอนนี้ ติดต่อซื้อแอดในเล่มที่ทำงานอยู่ หน้าด้านๆ บอกพี่ AE "ไม่ว่ายังไงหนูขอบัตรฟรีนะพี่"

- ตอนตรวจสกู๊ป สารภาพว่าจำหน้าได้แค่สองคนจริงๆ (ตอนนี้เอาแบบไม่มีผิดพลาด ก็ยังแค่สองเหมือนเดิม -_-')

- หนังสือออกไป ฟีดแบ็กค่อนข้างดี แต่เรื่องบัตรคอนยังเงียบฉี่

- "จะเอาบัตรกี่ใบ" คือคำถามจากพี่ AE คนเดิม
  เลยหน้าด้านๆ ไปเป็นรอบที่สอง "ถ้าพี่จะกรุณา หนูขอสัก 4 จะได้ไหมคะ"

- ด้วยเพราะเป็นวงที่ไม่อยู่ในความสนใจของเพื่อนร่วมงาน ทำให้ได้รับสิทธิ์นั้นไปแบบไม่ต้องรอเศษบัตรเหลือ ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก่อนคอนจะแสดง

- สองใบสำหรับเรากับเพื่อนเต็ม ส่วนอีกสองใบ กะไว้ตั้งแต่แรกว่าจะมอบให้เป็นกับน้องปุ้ยปุ้ยในฐานะที่น้องเป็นไอดอลในการกรี๊ดกร๊าดอาราชิของพี่ ซึ่งโชคดีประจวบเหมาะกับเพิ่งผ่านวันเกิดน้องมา เลยได้บวก tanjoubi purezento เข้าไปอีกหนึ่งวาระ

- ถึงจะรู้ว่าได้บัตร แต่ก็ยังไม่อาจวางใจได้เต็มที่ เพราะว่ายังไม่มีการคอนเฟิร์มว่าจะให้ไปรับบัตรที่ไหน ยังไง ถ้าฝั่งนู้นชิ่งขึ้นมา 'เสียหมา' แน่ๆ จนสุดท้ายพี่ AE คนเดิมอีกนั่นแหละที่โทร.ไปถามไถ่ให้ จนรู้ว่ารับได้หน้างานตอน 6 โมงเย็นเป็นต้นไป

- ถึงวันคอน ด้วยเพราะมีนัดเลี้ยงส่งเพื่อนเลิฟ ทำให้ลั้นลาในเซ็นทรัล ลาดพร้าว เพลินไปนิด มาถึงอินดอร์สายจากเวลาที่นัดไว้ (น้องปุ้ย gomen ne)

-จากคำบอกกล่าวของน้องปุ้ย น้องบอกมีโชว์เต้นคัฟเวอร์ บอกกับมีโอตาขุแดนซ์ด้วย โอ้ว มันน่าเสียดายยิ่งนัก เคยเห็นแต่ในทีวี ในเน็ต อยากเห็นตัวเป็น

- ถึงพลาดโอตาขุแดนซ์ แต่เราก็ได้เห็นบุคคลที่น่าจะเป็นโอตาขุ (ทั้งสัญชาติไทย และญี่ปุ่น) เดินกันว่อนหน้าอินดอร์ เป็นบุญตายิ่งนัก

-ไปรับบัตร อุแม่่เจ้า ได้มาเป็นป้ายห้อยคอ มีคำว่า 'press' ปะอยู่

- และแน่นอน เพราะว่ามันคือคอนจากญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องการรักษาเวลา บอกคอนจะเริ่มเวลาไหนก็เวลานั้นเป๊ะ ไม่มีการบวกเพิ่มตามกำลังศรัทธาเหมือนคอนที่เคยเจอในบ้านเรา

- พื้นที่บัตรแพงเรียกได้ว่าบัตรเกือบเต็ม ส่วนในส่วนสแตนด์เรียกว่าอาจจะโหรงเหรงไปนิด มีน้องเล่าว่า บัตรมีการลดแลกแจกแถมกันสุดฤทธิ์ ประมาณว่า ซื้อผลิตภัณฑ์เครือโออิชิครบ 1,000 รับไปโลดบัตรแพงสุด 2 ใบ

- เราคงจะชินกับพฤติกรรมประเภท อ๊ะ ที่โน้นว่างอยู่ ไว้รอคอนเริ่มสักพัก เดี๋ยวเราขยับไปนั่งตรงโน้นดีกว่า มุมดีกว่าอีก แต่ขอโทษ... กับคอนนี้คุณมิสามารถ เพราะทันทีที่คุณขยับกายเปลี่ยนที่นั่ง สตาฟฟ์คอนชุดดำก็จะปรี่เข้ามาขอดูตั๋ว และอัญเชิญคุณกลับที่เดิม

- คอนบ้านเรา คุณอาจจะเห็นภาพคนดูควักกล้องมาถ่ายกันพรึ่บ ไฟจากมือถือสว่างเรืองตอนนักร้องคนโปรดโผล่มาตรงหน้า แต่กับคอนนี้ ทันทีที่คุณกดแชะ พี่การ์ดก็จะพุ่งเข้าหาคุณโดยพลัน มันเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ อย่าได้คิดแหยม

- มาวกเข้าเรื่องคอน เพลงสรรเสริญจบ ไฟดับพรึ่บ ตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ทะเลเพนไลต์สว่างพรึ่บ ประทับใจศรียิ่งนัก แต่หมู่เฮามิได้เตรียมการใดๆ มา จึงทำได้เพียงการโบกมือเปล่าๆ ขึ้นลงตามจังหวะเพลง

- และคาดว่าคงมีคนอดรนทนไม่ไหวกับนังสี่คนนี้ เลยมีคนเอาแบล็กไลต์มาให้ บอกไว้ใช้ตอนช่วงอังกอร์ เพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิดให้รี่จัง (จากคำบอกเล่าของน้องปุ้ย) แต่ทันทีที่ของตกมาอยู่ในมือ เราก็หักเป๊าะมันโดยพลัน มีพร็อพแล้วเฟ้ย

- เข้าใจแล้วเวลาดูแฟนแคมแล้วมีเสียง kawaii~ ลอดมาเป็นระยะ เพราะระหว่างดูคอน คำว่า 'น่ารัก' หลุดจากปากเราเป็นระยะถี่ๆ

- น้องๆ เล่นคอนแบบทุ่มเต็มที่มาก ทุกเพลงร้องสด เต้นใส่กันเต็มที่ ที่สำคัญ เสียงดี แรงดี ไม่มีตก

- จริงๆ มันมีเซอร์ไพรส์เป็นน้องๆ จะใส่ชุดไทยร้องเจงกิสข่าน แต่เพราะชุดที่เตรียมไว้ไม่พอดีกับขนาดตัวน้องๆ เซอร์ไพรส์นี้จึงตกไป (เสียดาย)

- โมโม่นิ้วก้อยเด้งตลอดคอน และน้องดูช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่โคตรน่ารัก คู่ควรกับประโยคที่บอกว่า 'โมโมจิน่ารัก' จริงๆ ให้ดิ้นตาย

- โซนบัตรแพงทุกคนเต็มที่สมราคาบัตรมาก โบกเพนไลต์ตรงจังหวะเป๊ะ ทำท่าทางประกอบเพลงกันได้ทุกเพลง พอมีเพลงที่มีพร็อพประกอบเป็นผ้าหลากสี ทุกคนก็ควักผ้ามาสะบัดตามเพลงไม่มีหลุดสเต็ป ประทับใจศรีจริงๆ ฮ่ะ ณ จุดนี้

- จบคอน น้องๆ ยกมือไหว้ ขอบคุณค่ะ เห็นรี่จังน้ำตาคลอ หนูประทับใจพวกเรา พวกเราก็ประทับใจพวกหนูเหมือนกันจ้ะ

- และแน่นอน เมือคอนเริ่มตรงเวลา มันก็จบแบบตรงเวลา

- ออกมาข้างนอก เจอพี่ญี่ปุ่นเสื้อเปียกประหนึ่งพี่ไปเล่นสงกรานต์มา พวกพี่เต็มที่กันจริงๆ หนูนับถือ

-สุดท้าย หวังว่าคงจะมีวันที่เราได้โบกเพนไลต์ตามจังหวะเป๊ะๆ ไม่พลาดทุกสเต็ปแดนซ์ กับคอนอาราชิในเมืองไทย

- แต่ก่อนจะถึงวันนั้น คอนคัตตุน จะมีโอกาสได้บัตรฟรีอีกม้ายยยยยยยยย





Friday, 22 January 2010

อย่าทิ้งฉันกลางทาง

(เหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน)

"เออ... หมาบ้านท้ายซอยไม่อยู่แล้วนะ" 
ไม่ต้องบอกพิกัดที่ชัดเจนไปมากกว่านี้ ไม่ต้องบอกว่าหมาตัวไหน เราก็พอเดาออก 
(บ้านเป็นทาวน์เฮาส์ค่ะ แล้วบ้านท้ายซอยทั้งสองหลังก็เลี้ยงหมาทั้งคู่)
เจ้าหมาตัวที่ว่า... เราไม่เคยเห็นเจ้าของปล่อยให้ออกมาเดินเล่นนอกบ้าน เวลาที่เราจูงหมาที่บ้านไปเยี่ยมเยียนหมาเพื่อนบ้าน ก็จะเจอเจ้าตัวนี้นอนเซื่องๆ หน้าตามอมแมม ด้วยแววตาไม่มีความสุขอยู่ในรั้วบ้าน

"ม้าเห็นหลังๆ ไม่ค่อยได้ยินเสียงมันร้อง (ร้องเพราะถูกเจ้าของตี) เลยไปถามป้าเวียง (ป้าอยู่บ้านตรงข้ามกับน้องหมาตาเศร้า) ป้าแกบอกมันไปสวรรค์แล้ว ไปดีแล้ว"

แต่เหตุให้น่าหดหู่มันไม่ด้อยู่ที่น้องหมาตายหรอกค่ะ
ที่น่าหดหู่มาจาก...

เจ้าของเขาไม่ให้ข้าว ไม่ให้น้ำ ปล่อยให้มันค่อยๆ อดตายไปเอง

ได้ยินครั้งแรกได้แต่อึ้ง อึ้ง และอึ้ง
และ (เกือบ) แช่งเขาไปแล้ว
แต่มาคิดได้ว่า ไม่ต้องไปแช่งเขาหรอก
สิ่งที่เขาทำ เราว่าสักวันเขาคงได้รับสิ่งที่เขาทำไว้ตอบแทน

ไม่เข้าใจเหมือนกัน จะเลี้ยง จะเอาเขามาอยู่ด้วยทำไม
ในเมื่อคุณไม่พร้อมที่จะดูแลเขา
เรียกว่า... ไม่มีให้เขาแม้แต่ความรัก

หลับให้สบายนะมอมแมม (ไม่แน่ใจว่าน้องหมาตัวนั้นชื่ออะไร แต่จากสภาพที่เราเคยเห็น ชื่อมอมแมมเหมาะกับเขามาก และเรียกด้วยชื่อนั้นมาตลอด)

 

เริ่มรักเมื่อตอนแรกเจอ เธอจับจองตัวฉัน กลิ่นนั้นยังจำไม่เคยจาง
คอยเอาใจ อภัยให้ทุกอย่าง จับจูงร่วมทาง ให้ฉันวิ่งเคียงข้างไป
แต่แล้วเมื่อวันนั้นมา เธอกลับพาตัวฉัน ปลอ่ยฉันตรงมุมไม่คุ้นเคย
สั่งให้รอ ก็รออยู่เฉย ๆ แม้วันล่วงเลย ไม่เคยไปจากตรงนั้น

รอคนที่ทิ้งฉันกลางทาง รอคนที่รักอย่างภักดี
รอเธออยู่ตรงนี้ เพราะฉันไม่มีใจเหลือไปให้ใคร
อย่าเลย อย่าทิ้งฉันกลางทาง อย่าเลยอย่ารักเพียงพักเดียว
อย่าทำให้ฉันต้องคอยเหลียว คอยมองหา อย่าเลย


ยังห่วงหา ยังคงรออยู่ตรงนี้ เพราะใจที่มียังคิดถึงคนที่เลี้ยงดูมา
เฝ้าตามหา เพราะไม่เคยจะรู้ว่า คนที่รักตลอด จะไม่เลี้ยงตลอด จะไม่กอดฉันตลอดไป

(เพลง อย่าทิ้งฉันกลางทาง จากละคร น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์)


Thursday, 21 January 2010

เรื่องคืนนั้น...

คืนวันจันทร์ หรือจะเรียกว่าเช้าวันอังคาร ราวตี 4 นิดๆ
นั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศคนเดียว
จู่ๆ ไฟก็ดับพรึ่บ
เอาแล้วจุ้ย
เล่นตูแล้ว..

และพฤติกรรมที่ทำประจำเวลาไฟดับ แล้วหัวเดียวกระเทียมลีบ
คือการฟุบกับโต๊ะ และหลับตาปี๋
ประมาณว่าถ้ามีอะไรแปลกปลอม ก็คงมองไม่เห็น
เดชะบุญตอนนั้นเปิดอาราชิ (จากมือถือ) ไว้ บรรยากาศเลยไม่วังเวงมาก

เอานา.. เดี๋ยวไฟมันคงติด
เอานา...
เอานา...

ผ่านไป 10 นาทีก็แล้ว 20 นาทีก็แล้ว
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
มีเพียงความมืด และเสียงเพลงจากอาราชิ

สมองเริ่มจินตนาการ
ก่อนกลับมาทำงาน เพื่อนที่เรียนด้วยกันคุยถึงหนัง 'ตายโหง'
จินตนาการเริ่มมา

เมื่อเสาร์ ช่างภาพถาม อยู่ออฟฟิศคนเดียว ไม่เคยเจอผีมั่งเหรอ
จินตนาการเริ่มมา

เสียงคุยของยามข้างล่าง ดังขึ้นมาข้างบน
อ๊ะ มีคนคุยกันอยู่ข้างๆ
เสียงกอกแกกนู่นนี่
เฮ้ย ใครอยู่แถวนี่

ฟุบหน้ากับหมอนมานาน
ชักเริ่มหายใจไม่ออก
จินตนาการบรรเจิด
นานกว่านี้อาจประสาทเสียได้

ปิดเครื่อง Mac
ปิด printer
ปิดแอร์
ยัดทุกอย่างลงกระเป๋า
ปิดสวิตช์ไฟ

เปิดฝาพับมือถือ
มือเกาะราวบันได
ตามองต่ำ
อาศัยแสงเรืองๆ กับเสียงอาราชิเป็นเพื่อนไต่ลงมาจากชั้น 4 ถึงชั้น 1

เพื่อพบว่า...
ออกไปนอกตึกไม่ได้
เพราะประตูล็อกไฟฟ้า
และพี่ยามที่อยู่นอกตึกก็มิสามารถช่วยอะไรอิฉันได้เลย

ที่ทำได้ืคือ นั่งหลับกับโซฟาหลังประตู
กับความมืด และความเงียบ
เพราะมือถือแบตหมดไปเรียบร้อย

ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
ก็มีเสียงเคาะก๊อกๆ ที่ประตู
"พี่ๆ ไฟมาแล้ว"
โอ... อิสรภาพมันช่างหอมหวานเหลือเกิน


เรื่องคืนนั้นสอนให้รู้ว่า... ควรศึกษาวิธีเปิดประตูออฟฟิศตอนไฟดับไว้ด้วย มิฉะนั้น อาจจะเป็นเช่นนี้

Wednesday, 13 January 2010

คิดเอาเอง

นอกจากจะมีความดันทุรังแบบบ้าๆ เป็นสันดานแล้ว
หัสยายังมีสันดานอีกอย่างที่ฝังรากลึก นั่นคือ 'คิดเอาเอง'
คิดเอาเองว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และมั่นใจว่ามันต้องเป็นอย่างที่คิด


คิดเอาเองว่าตัวเองเกิดวันอาทิตย์
ไม่รู้ว่าเหตุอะไรถึงคิดอย่างนั้น แต่เอาเป็นว่าคิดว่าตัวเองเกิดวันอาทิตย์อยู่นานหลัก 15 ปีขึ้น จนได้มาเปิดปฏิทิน 100 ปี เอ๋า... เกิดวันศุกร์นี่หว่า

คิดเอาเองว่าตัวเองเกิดปีเถาะ
ก็กระต่ายมันดูน่ารักกว่าไก่นี่นะ เลยคิดว่าตัวเองเกิดปีเถาะ คิดฝังหัวอย่างนั้นพอๆ กับที่คิดว่าตัวเองก็วันศุกร์ จนได้สะดุดใจนิดหนึ่งตรงที่ เอ๊ะ ทำไมพออายุ 12 ปี ปีนักษัตรไหงไม่เป็นปีเถาะ แต่ ณ ตอนนั้นยังคิดว่า คงมีการคำนวณใดๆ ผิดพลาด มันเลยไม่ตรง แล้วก็ยังเชื่อว่าตัวเองเกิดปีเถาะกันต่อไป จนมาสำเหนียกได้ตอนเรียน ม.ปลาย

คิดเอาเองว่ากางเกงเลต้องใส่แบบเอามาผูกให้เป็นปม
ใส่กางเกงเลครั้งแรกตอน ม.ต้น ไม่มีใครมาบอกมาต้องใส่ยังไง เลยคิดเอาเองว่ากางเกงเลต้องใส่โดยการจับผ้าตรงเอวทั้งสองข้างมาผึกให้เป็นปม แล้วไอ้เชือกที่อยู่ตรงก้นนั้นเขามีไว้ปล่อยให้เป็นหางอย่างนั้น มิหนำซ้ำ ตอน ม.ปลาย ยังสอนเพื่อนใส่กางเกงเลด้วยวิธีการเดียวกับตัวเอง (เอาเข้าไป) เพิ่งมารู้เอาตอนสงกรานต์ปีที่แล้วว่าวิธีการใส่กางเกงเลที่ถูกต้องเป็นยังไง


อืม... แต่ละอย่าง คิดไปได้

Sunday, 10 January 2010

วันของเด็ก




ซื้อชุดให้หลานสาวคนกลาง และคนเล็ก เป็นของขวัญวันเกิด ปีใหม่ และวันเด็ก (รวบยอด) กะไซซ์ผิดไปทั้งคู่ ของคนกลางนี่หวิดติ้ว ส่วนของคนเล็กนี่แทบจะเป็นชุดราตรี

แฟชั่นน้องพลอย และน้องจิงจิง เชิญยลกันได้