คืนวันจันทร์ หรือจะเรียกว่าเช้าวันอังคาร ราวตี 4 นิดๆ
นั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศคนเดียว
จู่ๆ ไฟก็ดับพรึ่บ
เอาแล้วจุ้ย
เล่นตูแล้ว..
และพฤติกรรมที่ทำประจำเวลาไฟดับ แล้วหัวเดียวกระเทียมลีบ
คือการฟุบกับโต๊ะ และหลับตาปี๋
ประมาณว่าถ้ามีอะไรแปลกปลอม ก็คงมองไม่เห็น
เดชะบุญตอนนั้นเปิดอาราชิ (จากมือถือ) ไว้ บรรยากาศเลยไม่วังเวงมาก
เอานา.. เดี๋ยวไฟมันคงติด
เอานา...
เอานา...
ผ่านไป 10 นาทีก็แล้ว 20 นาทีก็แล้ว
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
มีเพียงความมืด และเสียงเพลงจากอาราชิ
สมองเริ่มจินตนาการ
ก่อนกลับมาทำงาน เพื่อนที่เรียนด้วยกันคุยถึงหนัง 'ตายโหง'
จินตนาการเริ่มมา
เมื่อเสาร์ ช่างภาพถาม อยู่ออฟฟิศคนเดียว ไม่เคยเจอผีมั่งเหรอ
จินตนาการเริ่มมา
เสียงคุยของยามข้างล่าง ดังขึ้นมาข้างบน
อ๊ะ มีคนคุยกันอยู่ข้างๆ
เสียงกอกแกกนู่นนี่
เฮ้ย ใครอยู่แถวนี่
ฟุบหน้ากับหมอนมานาน
ชักเริ่มหายใจไม่ออก
จินตนาการบรรเจิด
นานกว่านี้อาจประสาทเสียได้
ปิดเครื่อง Mac
ปิด printer
ปิดแอร์
ยัดทุกอย่างลงกระเป๋า
ปิดสวิตช์ไฟ
เปิดฝาพับมือถือ
มือเกาะราวบันได
ตามองต่ำ
อาศัยแสงเรืองๆ กับเสียงอาราชิเป็นเพื่อนไต่ลงมาจากชั้น 4 ถึงชั้น 1
เพื่อพบว่า...
ออกไปนอกตึกไม่ได้
เพราะประตูล็อกไฟฟ้า
และพี่ยามที่อยู่นอกตึกก็มิสามารถช่วยอะไรอิฉันได้เลย
ที่ทำได้ืคือ นั่งหลับกับโซฟาหลังประตู
กับความมืด และความเงียบ
เพราะมือถือแบตหมดไปเรียบร้อย
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
ก็มีเสียงเคาะก๊อกๆ ที่ประตู
"พี่ๆ ไฟมาแล้ว"
โอ... อิสรภาพมันช่างหอมหวานเหลือเกิน
เรื่องคืนนั้นสอนให้รู้ว่า... ควรศึกษาวิธีเปิดประตูออฟฟิศตอนไฟดับไว้ด้วย มิฉะนั้น อาจจะเป็นเช่นนี้
เออ กลัวอ่ะ แค่อยู่คนเดียวตอนไฟไม่ดับก็กลัวแล้ว
ReplyDeleteน่ากลัวตอนที่ จินตนาการเริ่มมา เนี่ยแหละค่า
ReplyDeleteน้องแอ้มเก่งจังเน้อ
ของพี่ ถ้าเริ่มคิดแล้วหยุดไม่ได้เลย อาการหนักมาก ฮ่าๆๆๆ
เหวอนะเนี่ย ไฟดับนานๆ ติดอยู่ในตึกมืดๆ คนเดียว คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการหลับ
ReplyDeleteต้องขอบใจอาราชินะที่อยู่เป็นเพื่อนคุณแอ้มแม้ในยามคับขัน...สารพัดประโยชน์จริงๆ
ReplyDeleteแหะ แหะ ทำเป็นปากดีไป ถ้าเป็นเราก็คงแย่แน่เลย
ReplyDeleteมันยากชะมัด ไอ้การเอาชนะความกลัวที่เราสร้างเองเนี่ย