นอกจากจะมีความดันทุรังแบบบ้าๆ เป็นสันดานแล้ว
หัสยายังมีสันดานอีกอย่างที่ฝังรากลึก นั่นคือ 'คิดเอาเอง'
คิดเอาเองว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และมั่นใจว่ามันต้องเป็นอย่างที่คิด
คิดเอาเองว่าตัวเองเกิดวันอาทิตย์
ไม่รู้ว่าเหตุอะไรถึงคิดอย่างนั้น แต่เอาเป็นว่าคิดว่าตัวเองเกิดวันอาทิตย์อยู่นานหลัก 15 ปีขึ้น จนได้มาเปิดปฏิทิน 100 ปี เอ๋า... เกิดวันศุกร์นี่หว่า
คิดเอาเองว่าตัวเองเกิดปีเถาะ
ก็กระต่ายมันดูน่ารักกว่าไก่นี่นะ เลยคิดว่าตัวเองเกิดปีเถาะ คิดฝังหัวอย่างนั้นพอๆ กับที่คิดว่าตัวเองก็วันศุกร์ จนได้สะดุดใจนิดหนึ่งตรงที่ เอ๊ะ ทำไมพออายุ 12 ปี ปีนักษัตรไหงไม่เป็นปีเถาะ แต่ ณ ตอนนั้นยังคิดว่า คงมีการคำนวณใดๆ ผิดพลาด มันเลยไม่ตรง แล้วก็ยังเชื่อว่าตัวเองเกิดปีเถาะกันต่อไป จนมาสำเหนียกได้ตอนเรียน ม.ปลาย
คิดเอาเองว่ากางเกงเลต้องใส่แบบเอามาผูกให้เป็นปม
ใส่กางเกงเลครั้งแรกตอน ม.ต้น ไม่มีใครมาบอกมาต้องใส่ยังไง เลยคิดเอาเองว่ากางเกงเลต้องใส่โดยการจับผ้าตรงเอวทั้งสองข้างมาผึกให้เป็นปม แล้วไอ้เชือกที่อยู่ตรงก้นนั้นเขามีไว้ปล่อยให้เป็นหางอย่างนั้น มิหนำซ้ำ ตอน ม.ปลาย ยังสอนเพื่อนใส่กางเกงเลด้วยวิธีการเดียวกับตัวเอง (เอาเข้าไป) เพิ่งมารู้เอาตอนสงกรานต์ปีที่แล้วว่าวิธีการใส่กางเกงเลที่ถูกต้องเป็นยังไง
อืม... แต่ละอย่าง คิดไปได้
มันตรงกับปรัชญาศาสนาพุทธ ที่ว่าเรียนรู้ผิดถูกด้วยตัวเองก่อนอย่า เพิ่งปักใจเชื่อถ้ายังไม่ได้ลองทำ
ReplyDeleteおもしろい~
ReplyDeleteปล. กางเกงเลใส่ยังไง พี่ยังไม่รู้จริงๆค่ะ
อืม อธิบายยังไงดีล่ะ มันคล้ายๆ เวลาใส่ผ้าถุงอะค่ะพี่ลิลลี่ เอาเอวกางเกงมาทบกัน แล้วเอาเชืือกด้านหลังมาผูก เสร็จแล้วก็ทับตลบๆ ลงมา
ReplyDeleteแต่ถ้าเป็นหนูเมื่อก่อน ก็เอาปลายสองด้านผูกกันเป็นปม เวลาใส่ก็จะเป็นก้อนกลมๆ อยู่ตรงพุง
คิดเอาเองว่าหนุ่มญี่ปุ่นน่ารักด้วยป่ะ
ReplyDeleteอันนี้ไม่ต้องคิดว่ะเธอ เห็นกันอยู่กับตา
ReplyDeleteเมื่อก่อนเราก็ใส่กางเกงเลแบบแอ้มนะ
ReplyDeleteจำได้ว่ากางเกงเลเมื่อก่อนไม่มีเชือกข้างหลังอ่ะ
เราเพิ่งเห็นแบบมีเชือกไม่กี่ปีมานี้เอง
ฮ่าๆๆ นึกออกแล้วค่ะ น้องแอ้มเข้าใจ refer นะคะ...ถ้าเป็นแบบเดียวกับผ้าถุง วัยพี่ต้องเข้าใจแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ
ReplyDeleteของกางเกงเล ก็เป็นเชือกที่เย็บติดจากด้านหลังดึงโยงมาผูกกันด้านหน้า
ของผ้าถุง ก็เป็นเข็มขัดทอง-เงิน-นาค อะไรแบบนั้นเนะ 555+