Saturday, 24 May 2008

ทาโร่... หมาลำโพง




บางคนเรียกมันว่าเพื่อน
บางคนสถาปนาใหเป็นลูก
ขณะที่บางคนรักมันเหมือนพี่น้อง

สำหรับ... ทาโร่เป็นเหมือนลูกชายค่ะ

ทาโร่มาอยู่กับเราเมื่อมิถุนายน ปี 2547
ตอนนั้นตัวกระเปี๊ยกเดียว มีวี่แววว่าจะไม่รอด
เพราะตอนนั้นท้องเสียอยู่หลายวัน
ด้วยความอึด ทาโร่ก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้

ช่วงที่พ่อเสีย ก็ได้ทาโร่นี่แหละอยู่เป็นเพื่อนแม่ (คุณยายของทาโร่)
สร้างความปวดหัวให้แม่บ้าง สร้างความอุ่นใจให้แม่ในวันที่ฝนตก ไฟดับ ว่าอย่างน้อยแม่ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกตัวนึงอยู่ข้าง

เกิดวิกฤตกับชีวิตทาโร่อีกหน
จู่ๆ ตาข้างขวาก็อักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ
ตาปิด ตัวร้อน เล่นเอาต้องเช็ดตัวให้ตลอดคืน
แล้วทาโร่ก็ผ่านวิกฤตมาได้อีกหน
พร้อมกับได้เม็ดนูนๆ ขึ้นมาที่กระจกตา

คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก
คนกับหมาคงรู้สึกไม่ต่างกัน
ทาโร่ต้องย้ายตามยาย (แม่เรา) ไปพนมสารคาม
หมาที่เคยนอนหนุนหมอนใบเดียวกันกับเรา นอนแย่งผ้าห่มเราบ้าง แม่บ้าง ในวันที่อากาศเย็น
โดนอัปเปหิให้นอนนอกบ้าน
กลับมาบ้านคลอง 11 ก็ได้แต่นั่งมองจากประตู ส่งเสียงหงิงๆ
บ้านเป็นที่ที่ทาโร่เข้าไม่ได้แล้ว
อาการกระดี๊กระด๊าเป็นหมากินยาบ้า ค่อยๆ หายไป
หลังๆ มานี้ทาโร่ไม่ร่าเริงเต็มที่เหมือนกัน

วิกฤตครั้งใหญ่เกิดกับทาโร่อีกหน
แม่บอกว่า คืนนั้นมาร้องหงิงๆ เสียงดังหน้าประตู
แม่ออกไปดู ตาข้างซ้ายปิด และบวม
ดึกดื่นทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าการกรอกยาแก้ปวดให้มัน
พร้อมกับคำปลอบใจ

ตาดำบุ๋มลึกลงไป ตาดำเหมือนแตกๆ เป็นลักษณะที่พอบรรยายได้
ตลอดช่วงที่สื่อสารกับแม่บ้านโทรศัพท์
คิดว่า.. เอานา เดี๋ยวมันก็หาย
พอไปเจอะด้วยตา คำพูดที่หลอกตัวเองคงใช้ไม่ได้อีกแล้ว
ตาหนูไม่บอดหรอก ที่ใช้หลอกทั้งหมา ทั้งตัวเอง คงใช้ไม่ได้แล้ว

เดินๆ อยู่ จู่ๆ ก็เซ กะตำแหน่งการก้าวไม่ถูก เดินชนโน่นนี่
อาการที่แสดงออกพวกนี้ คงจะสื่ออะไรๆ ได้แล้ว
เฮ้อ... หัวอกคนเป็นแม่... ใจแทบขาด

Wednesday, 7 May 2008

Attention Pleaseสงครามนางฟ้า... ของแท้ต้องเป็นอย่างนี้

Rating:★★★★
Category:Other
ไม่มีการแหกปากด่า
ไม่มีใครตัวอิจฉามาทำหน้าบิดเบี้ยวว่าฉันมันตัวร้ายเสียเต็มประดา
ไม่มีการขึ้นคร่อมตบ
ไม่มีการเอาเปลือกทุเรียนไล่ตบให้เห็น

มีแต่ความมุ่งมั่น
ความตั้งใจจริง
กับการไล่ล่าตามความฝันของประดาหญิงสาว
ความฝันที่จะได้เป็น cabin attendant - นางฟ้าที่ไม่ต้องมีปีกก็บินได้ ของสายการบิน JAL

เริ่มหาเรื่องนี้มาดู ไม่ใช่เพราะเนื้อหาใดๆ เลย
แต่เหตุมันเกิดจากผู้ชาย...
พ่อหนุ่มอะโซคุงจาก 1 litre of tears (ชื่อไทย – บันทึกน้ำตา 1 ลิตร, แหม้!! ช่างไพเราะเสียนี่กระไร)
และแน่นอน... เรื่องนี้พ่อหนุ่มเรียวก็มากับบทบาทคล้ายเดิม – นิ่งๆ เงียบๆ พร้อมยิ้มบาดใจ ^0^

สอบสัมภาษณ์ สอบข้อเขียนผ่าน แต่ใช่ว่าคุณจะมีโอกาสได้บินในทันที
ต้องมาเรียนรู้การโค้งคำนับกันใหม่ตั้งแต่ต้น
การพูดทักทาย ขอบคุณ ที่พูดกันจนชินปาก
แต่พูดอย่างไหน น้ำเสียงแบบไหน แววตายังไง มันถึงส่อความจริงใจกันอย่างที่สุด
ปากกาเพียงด้ามเดียวที่ทำตกในโรงเก็บเครื่องบิน แต่กลับคือเรื่องใหญ่ที่ต้องพลิกโรงเก็บหาของบรรดานายช่างฯลฯ

การจะเป็นนางฟ้านี่มันไม่ง่ายเลย
(ของญี่ปุ่นนะ ของบ้านเรานี่จะขนาดนี้รึเปล่าก็ไม่รู้)




Tuesday, 6 May 2008

รสมือ... รสรัก

 

จำได้ว่าเมื่อเด็กๆ อาหารที่ทำให้หมู่เฮาพี่น้องเปรมปรีดิ์กันอย่างนึงก็คือ
ข้าวคลุกปลาทู ปลาเค็ม ขี้มือแม่
กินกันทีเรียกว่าเป็นกะละมัง
วันไหนที่มีปลาทู ปลาเค็ม เหมือนแม่จะรู้ชะตากรรมตัวเอง
อิดออดบ้างตามประสา
เดี๋ยวมือเหม็นบ้างล่ะ
ขี้เกียจบ้างล่ะ
แต่สุดท้ายแม่ก็จะเดินไปในครัวเพื่อล้างมือ
ค่อยๆ ลงมือแกะเนื้อปลา เขี่ยก้างออก
บี้เนื้อปลาคลุกกับข้าว
และจะแถมภูเขาทองให้สองสามเหยาะ ในกรณีที่เป็นปลาทู
เป็นอาหารที่เราพี่น้องกินกันอย่างอร่อย
ช้อนคนละคัน คนละจ้วงสองจ้วง
ข้าวเป็นกะละมังก็ไม่ค่อยจะพอ

สามปีก่อน ตอนงานศพพ่อ
ยายที่อยู่ปากพนัง ขึ้นมางานศพพ่อด้วย
น้าๆ ที่อยู่สารพัดทิศก็มาด้วย
มือเที่ยงมีปลาทูเป็นหนึ่งในกับข้าว
ฉันตักข้าวหนึ่งถ้วย พร้อมจานปลาทูยื่นไปให้ยาย
หวังแค่ให้ยายขยำกับข้าวให้เท่านั้น
แต่ยายค่อยๆ แกะเนื้อปลา
ค่อยๆ เขี่ยก้างออก
เอาปลาบี้ๆ กับข้าว
ปั้นเป็นก้อนขนาดพอคำ
แล้วส่งข้าวคำนั้นเข้าปากฉันด้วยมือของยายเอง
“ข้าวแมว ยังกินเหมือนตอนเด็กๆ เลยนะ” ยายพูดทั้งที่กินหมากปากแดง แล้วยิ้มให้
แล้วยายก็ค่อยแกะปลาทู บี้กับข้าว ปั้นเป็นก้อน ป้อนเข้าปาก
คำแล้วคำเล่า
ท่ามกลางสายตาของญาติ ของพี่ ของแม่ ที่มองมา
ไม่รู้ว่าเป็นสายตาขำ เอ็นดู หมั่นไส้
หรืออยากมีอารมณ์นี้แบบฉันบ้างก็ไม่รู้

เพราะพอโตขึ้น ฉันไม่เคยเห็นพี่ๆ คนไหนบอกให้แม่คลุกข้าวอย่างนี้ให้กินอีก
ไม่รู้ว่าเพราะข้าวแบบนี้มันไม่อร่อยเหมือนเดิม
ไม่รู้ว่าเพราะโตเกินกว่าจะร้องขอให้แม่ทำอะไรแบบนี้
หรือไม่รู้ว่าอายที่จะร้องขอให้แม่คลุกข้าวให้

ก็ไม่รู้...

 

 

 

 

 

ข้าวที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าข้าวเปล่า และปลาเค็ม ปลาทู
แต่มันกลับอร่อยกว่าอาหารดีๆ แพงๆ เจ้าไหนๆ
เรียกว่าเป็นข้าวที่คลุกด้วยความรัก… คงไม่เว่อร์ไปใช่มั้ยเนี่ย